‘อุบัติเหตุ’ คือสิ่งที่ไม่เข้าใครออกใคร ถึงแม้จะไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้นแต่มันก็มักจะมาทักทายเราโดยไม่ทันตั้งตัว ยิ่งเป็นอุบัติเหตุจากการขับขี่ด้วยแล้ว ต่อให้ระมัดระวังแค่ไหนก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้ TIPINSURE แนะนำว่าวางแผนรับมือไว้ก็ไม่เสียหาย ด้วยการซื้อประกันรถยนต์นี่แหละ บอกเลยว่ามีไว้แล้วมันช่วยเราได้เยอะจริง ๆ รวมถึงเรื่องการศึกษาว่าถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาจะต้องทำอย่างไร
1. หยุดรถและติดต่อบริษัทประกันรถยนต์ที่คุ้มครอง ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุแบบไหน มีคู่กรณีเป็นบุคคลหรือสัตว์ สิ่งของ สิ่งแรกที่ควรต้องทำก็คือหยุดรถในจุดที่เกิดเหตุ และรีบทำการติดต่อบริษัทประกันรถยนต์ที่ได้ทำการซื้อความคุ้มครองไว้เพื่อให้เจ้าหน้าที่รีบมาดำเนินการประเมินความเสียหายโดยด่วน หากไม่ใช่สถานที่เปลี่ยวหรืออันตราย TIPINSURE แนะนำว่าไม่ควรขยับรถ 2. ตั้งสติ ใจเย็น อย่าเพิ่งพูดอะไร ควรตั้งสติลำดับเหตุการณ์ให้ดีว่าเกิดอะไรขึ้นและอย่าเพิ่งยอมรับผิดโดยที่ไม่มีเจ้าหน้าที่จากบริษัทประกันรถยนต์อยู่ด้วย เพราะอีกฝ่ายอาจจะเข้าใจว่าคุณเป็นฝ่ายผิด และไม่ควรกล่าวโทษอีกฝ่ายโดยเด็ดขาดเพราะอาจจะนำไปสู่การดูหมิ่นได้ ขอให้ใช้ความใจเย็นเข้าสู้ เพราะหากมีประกันรถยนต์ ประเภท 1 อยู่แล้วก็สบายใจได้เลย มีคนคุ้มครองแน่นอน 3. จดจำข้อมูลของคู่กรณี หากในกรณีที่อีกฝ่ายทำท่าจะหนีหาย ควรจดจำลักษณะรถของคู่กรณี หรือเวลาที่เกิดเหตุไว้เพื่อแจ้งดำเนินการต่อไป แต่สิ่งที่ไม่ควรทำเลยก็คือการขอยึดใบขับขี่ของอีกฝ่ายไว้ เพราะอาจนำไปสู่การโดนข้อหาลักทรัพย์ได้ หรืออาจจะสอบถามคู่กรณีมาก่อนได้ว่ารถของอีกฝ่ายเป็นรถประกันชั้น 1 หรือไม่ 4. ให้ข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่ให้ครบถ้วน เมื่อเจ้าหน้าที่จากบริษัทประกันรถยนต์และเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึง ควรแจ้งข้อมูลชื่อ ที่อยู่ เลขทะเบียนรถของคุณ และรายละเอียดอุบัติเหตุแก่เจ้าหน้าที่ให้ครบถ้วน 5. แจ้งตำรวจทันที จำเป็นต้องแจ้งตำรวจ เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้ามาเป็นพยานและรับทราบอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นรวมถึงช่วยอำนวยความสะดวกในการดูจุดเกิดเหตุและตีเส้นตำแหน่งรถหากมีความจำเป็นต้องนำรถเข้าข้างทาง 6. หาพยานช่วยยืนยัน สิ่งที่ห้ามลืมเลยก็คือการหาพยานที่เห็นเหตุการณ์รอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นผู้คนในบริเวณนั้น หรือภาพจากกล้องของรถด้านหลัง ภาพจากกล้องวงจรปิด หรืออื่น ๆ 7. ไปโรงพยาบาล หากเกิดอาการบาดเจ็บควรรีบไปโรงพยาบาลเพื่อพบแพทย์ยืนยันอาการบาดเจ็บที่เกิดจากอุบัติเหตุ หากปล่อยไว้และเกิดการบาดเจ็บภายหลังอาจจะทำให้เรียกร้องการรับผิดชอบจากอีกฝ่ายได้ยากขึ้น 8. แจ้งความ เมื่อเกิดอุบัติเหตุใด ๆ ก็ตามที่มีความเสียหายเกิดขึ้น ควรแจ้งความแก่ตำรวจทุกครั้งเพื่อให้มีเอกสารรับรองว่าอุบัติเหตุได้เกิดขึ้นจริง เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายแจ้งความดำเนินคดีกลับหรือปฏิเสธความรับผิดชอบในภายหลัง 9. ตกลงเงื่อนไขการจ่ายค่าเสียหาย ส่วนนี้จำเป็นจะต้องมีเจ้าหน้าที่จากบริษัทประกันรถยนต์อยู่ด้วย เพื่อตกลงกันเรื่องค่าเสียหายและแนะนำว่าควรให้บริษัทประกันชดใช้หรือจะต้องจ่ายค่าเสียหายเอง แต่ถ้าเป็นรถประกันชั้น 1 แน่นอนว่าเมื่อเกิดอุบัติเหตุคุณก็เบาใจได้เลย เพราะมีประกันภัยรถยนต์ 1 คอยดูแล 10. อย่าด่วนรอมชอม อย่าเพิ่งรีบตัดสินใจยอมความ เพราะหากเกิดการบาดเจ็บทางร่างกายหรือพบความเสียหายที่ตัวรถในภายหลังจะดำเนินเรื่องและเรียกร้องค่าเสียหายเพิ่มเติมได้ยากขึ้น เพราะคู่กรณีจะถือว่าคุณยอมความไปแล้วนั่นเอง ทั้ง 10 สิ่งนี้คงจะเป็นเรื่องที่ครอบคลุมเลยล่ะสำหรับมือใหม่หัดขับหรือมือเก๋าที่มักจะทำตัวไม่ถูกเมื่อเกิดอุบัติเหตุ หากตั้งสติและทำตามนี้รับรองว่าอุบัติเหตุที่เกิดจะไม่น่าปวดหัวอย่างที่คิดแน่ และที่สำคัญคือควรมีประกันรถยนต์ประเภท 1 ติดไว้เลย เพราะมีแล้วชีวิตดีมาก คุ้มครองทั้งมีคู่กรณีหรือไม่มีคู่กรณี ไม่ต้องควักกระเป๋าจ่ายค่าเสียหายเองอีกด้วย ** ขอขอบคุณบทความจาก ทิพยประกันภัย 💖สนใจทำประกันรถยนต์ กับ ทิพยประกันภัย ขอใบเสนอราคาหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม คลิก 👉https://bit.ly/3utC0ts 💢ประกันชั้น 1 ราคาสุดๆ ที่นี่ 💢ผ่อนง่าย จ่ายสบาย 0%ไม่ง้อบัตรเครดิต 💢ผ่อนอยู่เคลมได้ไม่ต้องเทเบี้ย 💕ฟรี ช่วยเหลือฉุกเฉิน 3,000 บาท** 💕ฟรี ช่วยเหลือฉุกเฉิน มูลค่า 3,000 บาท 💕ฟรี สิทธิซื้อประกันใช้ราคาสมาชิกทั้งครอบครัวตลอดชีพ 📍สนใจสอบถาม/ขอใบเสนอราคา เพิ่มเพื่อนทักแชทครับ.. 📍คลิกเพิ่มเพื่อน https://bit.ly/3FVfsWc 📍ดูประกันแบบอื่นๆได้ที่ https://bit.ly/3GVkPVS ✨รายละเอียดเพิมเติม https://bit.ly/3q6iQcj ✨WebSite: https://bit.ly/3CSo0LZ By #โค้ชโน๊ต ที่ปรึกษาด้านประกันภัย 061-301-3547 #บัตรนายหน้า #ขายประกัน #ประกันผ่อนได้ #สมัครขายประกัน #สมัครนายหน้า #ฟินโบรคเกอร์ #ประกันออนไลน์ #งานเสริม #งานออนไลน์ #อาชีพเสริม **ตามเงื่อนไขบริษัท
0 Comments
Leave a Reply. |