ผู้ใช้รถ ใช้ถนน ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่แบบไหน ก็ควรทำประกันชั้น 1 มีไว้อุ่นใจ สบายกว่า เพราะให้ผลการคุ้มครองแบบจัดเต็ม และครอบคลุมทุกความเสียหาย การเดินทาง ขับรถออกจากบ้าน ก็เหมือนการเสี่ยงดวง ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น บางครั้งเราระวัง แต่ผู้ร่วมทางคนอื่นอาจจะไม่ระวังด้วย หากมีประกันรถยนต์ก็คลายกังวล
สำหรับผู้ใช้รถที่ทำประกันชั้น 1 แล้ว เรื่องใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้ามคือ “ใบเคลมประกัน” ที่ต้องมีความเข้าใจและมีการตรวจสอบ หลังจากที่ทำประกันรถยนต์กับบริษัทประกัน จะต้องได้รับใบเคลมประกัน หรือใบรับรองความเสียหายเมื่อเกิดอุบัติเหตุ วันนี้เราจึงสรุปสั้น ๆ เกี่ยวกับใบเคลมประกันที่คนใช้รถต้องรู้มาฝาก ว่าคืออะไรและมีอายุการใช้งานกี่ปี รวมถึงข้อแนะนำในการใช้ใบเคลมประกันรถยนต์ เรื่องใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้าม! ทำความรู้จัก “ใบเคลม” ประกันรถยนต์ ใบเคลมที่เรารู้จักนั้น มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า "ใบรับรองความเสียหาย" เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะมีคู่กรณีหรือไม่ก็ตาม บริษัทประกันภัยจะออกใบเคลมให้กับเรา (ผู้เอาประกันภัย) เพื่อยืนยันกับศูนย์บริการหรืออู่ ว่าบริษัทประกัน จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถของลูกค้า ตามที่ระบุไว้ในใบเคลม ใบเคลมประกันรถยนต์ มีอายุกี่ปี ? ใบเคลมจะมีอายุ 2 ปี นับตั้งแต่วันที่บริษัทประกันภัยออกเอกสารให้แก่ผู้ทำประกัน เช่น เมื่อคุณทำประกัน ชั้น 1 หลังได้รับเอกสารจะสามารถนำรถเข้าซ่อมเมื่อไหร่ก็ได้ภายใน 2 ปี ข้อแนะนำการใช้ใบเคลมประกันรถยนต์ เมื่อได้รับใบเคลมจากบริษัทประกันมาแล้ว เราควรนำรถเข้าซ่อมที่ศูนย์บริการหรืออู่ภายใน 15 วัน เพราะถ้าหาก ปล่อยไว้เป็นเวลานาน ความเสียหายที่เกิดจากอุบัติเหตุอาจจะลุกลามเกินกว่าที่ได้ระบุไว้ในใบเคลม เช่น อาจมีรอยสนิมเกิดขึ้น จากการที่เราไม่นำรถเข้าไปซ่อมที่ศูนย์บริการหรืออู่ การปล่อยรถทิ้งไว้เป็นเวลานานทำให้ตัวรถถูกสนิมกัดกร่อนไปตามกาลเวลา ซึ่งในกรณีนี้ บริษัทประกันภัยเค้าจะรับผิดชอบเฉพาะความเสียหายที่เกิดจากอุบัติเหตุเท่านั้น ส่วนความเสียหายที่เกิดเพิ่มขึ้นมาภายหลังจากอุบัติเหตุ เราจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการซ่อมเอง ดังนั้นจึงควรนำรถเข้าซ่อม ณ ศูนย์บริการ หรืออู่ ภายใน 15 วันครับ ขับรถยนต์อย่างอุ่นใจให้ทิพยประกันภัยเป็นเพื่อนร่วมทาง สำหรับใครที่กำลังมองหาประกันประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ให้ความคุ้มครองอย่างดีเยี่ยม พร้อมทั้งขั้นตอนและเอกสารต่าง ๆ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ทุกการขับขี่ของคนยุคใหม่ **ขอขอบคุณบทความจาก บ.ทิพยประกันภัย 💖สนใจทำประกันรถยนต์ กับ ทิพยประกันภัย ขอใบเสนอราคาหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม คลิก 👉https://bit.ly/3saZbIE 💢ประกันชั้น 1,2+,3+ ราคาสุดๆ ที่นี่ 💢ผ่อนง่าย จ่ายสบาย 0%ไม่ง้อบัตรเครดิต 💢ผ่อนอยู่เคลมได้ไม่ต้องเทเบี้ย 💕ฟรี ช่วยเหลือฉุกเฉิน 3,000 บาท** 💕ฟรี ช่วยเหลือฉุกเฉิน มูลค่า 3,000 บาท 💕ฟรี สิทธิซื้อประกันใช้ราคาสมาชิกทั้งครอบครัวตลอดชีพ 📍สนใจสอบถาม/ขอใบเสนอราคา เพิ่มเพื่อนทักแชทครับ.. 📍คลิกเพิ่มเพื่อน https://bit.ly/3FVfsWc 📍ดูประกันแบบอื่นๆได้ที่ https://bit.ly/3GVkPVS ✨รายละเอียดเพิมเติม https://bit.ly/3q6iQcj ✨WebSite: https://bit.ly/3CSo0LZ By #โค้ชโน๊ต ที่ปรึกษาด้านประกันภัย 061-301-3547 #บัตรนายหน้า #ขายประกัน #ประกันผ่อนได้ #สมัครขายประกัน #สมัครนายหน้า #ฟินโบรคเกอร์ #ประกันออนไลน์ #งานเสริม #งานออนไลน์ #อาชีพเสริม **ตามเงื่อนไขบริษัท
0 Comments
🔴กว่าจะขับรถเป็นไม่ใช้เรื่องยากสำหรับใครหลายคน เพราะได้รับการฝึกเทรนมาอย่างดี แต่กว่าจะขับรถให้ชำนาญออกสนามจริงได้นั้นยากกว่า! เพราะยังมีอีกหลายด่านที่มือใหม่หัดขับต้องเจอ ไม่ว่าจะเป็นความรู้พื้นฐานกฎจราจร การสอบใบขับขี่ การรู้วิธีในการดูแลรถ ยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องจัดการ เช่น การต่อ พ.ร.บ.รถยนต์ การยื่นต่อภาษี การทำประกันเพื่อคุ้มครองอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเป็นประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ แถมยังมีประกันรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ที่รถทุกคันจำเป็นต้องมี บังคับทำประกันตามชื่อ เพราะถ้าไม่มีเวลาเกิดเหตุเท่ากับผิดกฎหมายนั้นเอง
🔴มือใหม่อาจจะงง! หรือเกิดความสับสน แต่ไม่ต้องกังวล เพราะเราจะมาทวนความรู้ร่วมกันว่าพรบ.คืออะไร ทำไมถึงจำเป็นต้องมี เราจะได้รับพรบ.รถมาได้อย่างไร รวมถึงได้รับความคุ้มครองอะไรบ้าง แอบกระซิบ! พรบ.รถยนต์ เขาเพิ่มความคุ้มครองใหม่แล้วนะ มือใหม่ต้องรู้! ✔ประกันรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) คืออะไร มือใหม่ต้องรู้! “พ.ร.บ. รถยนต์” คือ การประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ ซึ่งกฎหมายบังคับให้รถทุกคัน ต้องทำประกัน โดยพ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถนั้น กฎหมายกำหนดให้ ยานพาหนะทางบกทุกประเภทที่จดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก ต้องทำ ประกันภัยประเภทนี้ เพื่อให้ความคุ้มครองกับตัวบุคคลที่ได้รับผลจากอุบัติเหตุ ✔ทำไมต้องมี พรบ.รถยนต์ สำคัญอย่างไร ? สาเหตุที่ต้องมี พ.ร.บ. รถยนต์ เนื่องจากทุกการขับขี่บนท้องถนน มีโอกาสเสี่ยงในการเกิดอุบัติ จึงได้มีการออกกฎหมายบังคับให้รถทุกคัน ต้องมี พ.ร.บ. รถยนต์ เพื่อคุ้มครอง ไม่ว่าจะเป็นคนที่ได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุนั้นจะผิดหรือถูก กฎหมายจะให้ความคุ้มครองต่อตัวคู่กรณี และผู้เอาประกันเมื่อเกิดอุบัติเหตุ และที่สำคัญ คือ การคุ้มครอง ไม่ว่าจะเป็นเงินชดเชย ค่ารักษาพยาบาลเมื่อได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตเพราะเกิดอุบัติเหตุจากรถยนต์ ให้ได้รับการรักษาพยาบาลอย่างทันท่วงที ไม่ว่าจะกรณีบาดเจ็บ หรือช่วย ค่าปลงศพ กรณีเสียชีวิต ถ้ารถคันไหนไม่มีการต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ ไม่ว่าคนขับจะเป็นเจ้าของรถหรือไม่ก็จะไม่ได้รับความคุ้มครอง และยังถือว่าผิดกฎหมาย ต้องดูดำเนินคดีตามกระบวนการ จะมีโทษดังนี้ · ปรับสูงสุด 10,000 บาท · หากไม่มีพรบ.รถยนต์ ก็ไม่สามารถนำไปยื่นต่อภาษีได้ มีโทษค่าปรับกรณีที่ไม่ได้ยื่นต่อภาษีป้ายทะเบียนรถ เสียค่าปรับประมาณ 400-1,000 บาท ต้องเสียค่าปรับสำหรับการชำระภาษีรถยนต์ย้อนหลังเดือนละ 1% หากเกิน 3 ปี ทะเบียนรถจะถูกระงับการใช้งานและโดนโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือจะไม่สามารถต่อภาษีได้แล้ว จะต้องดำเนินการจดทะเบียนรถใหม่ · เมื่อเกิดอุบัติเหตุไม่ได้รับการคุ้มครอง 🔴มือใหม่ห้ามพลาดเด็ดขาด! เพราะได้ไม่คุ้มเสีย เวลาเกิดอุบัติเหตุไม่ได้รับการคุ้มครอง แถมผิดกฎหมายเสี่ยงโดนตำรวจจับเวลาเจอด่านต่าง ๆ ต้องเสียค่าปรับอีกด้วยนะ ขอแนะนำต่อพรบ.รถยนต์กับยื่นต่อภาษีจะคุ้มกว่า พ.ร.บ.รถยนต์ นอกจากจะสามารถซื้อผ่านทางกรมขนส่งทางบกหรือผ่านบริษัทประกันภัย **ขอขอบคุณบทความจาก บ.ทิพยประกันภัย 💖สนใจทำประกันรถยนต์ กับ ทิพยประกันภัย ขอใบเสนอราคาหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม คลิก 👉https://bit.ly/3saZbIE 💢ประกันชั้น 1,2+,3+ ราคาสุดๆ ที่นี่ 💢ผ่อนง่าย จ่ายสบาย 0%ไม่ง้อบัตรเครดิต 💢ผ่อนอยู่เคลมได้ไม่ต้องเทเบี้ย 💕ฟรี ช่วยเหลือฉุกเฉิน 3,000 บาท** 💕ฟรี ช่วยเหลือฉุกเฉิน มูลค่า 3,000 บาท 💕ฟรี สิทธิซื้อประกันใช้ราคาสมาชิกทั้งครอบครัวตลอดชีพ 📍สนใจสอบถาม/ขอใบเสนอราคา เพิ่มเพื่อนทักแชทครับ.. 📍คลิกเพิ่มเพื่อน https://bit.ly/3FVfsWc 📍ดูประกันแบบอื่นๆได้ที่ https://bit.ly/3GVkPVS ✨รายละเอียดเพิมเติม https://bit.ly/3q6iQcj ✨WebSite: https://bit.ly/3CSo0LZ By #โค้ชโน๊ต ที่ปรึกษาด้านประกันภัย 061-301-3547 #บัตรนายหน้า #ขายประกัน #ประกันผ่อนได้ #สมัครขายประกัน #สมัครนายหน้า #ฟินโบรคเกอร์ #ประกันออนไลน์ #งานเสริม #งานออนไลน์ #อาชีพเสริม **ตามเงื่อนไขบริษัท 📌หลายคนคงรู้จัก พ.ร.บ. รถ กันเป็นอย่างดี เพราะเป็นประกันภัยภาคบังคับที่กฎหมายกำหนดว่ารถทุกคันจำเป็นต้องมี แต่หลายยังคงชะล่าใจ แน่นอนว่าอะไรที่มีวันหมดอายุ แล้วเราไม่ต่ออายุก็ย่อมมีสิ่งที่ต้องแลกเปลี่ยน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ ซึ่ง พ.ร.บ. รถยนต์นี้มีอายุเพียง 1 ปี ถ้าปล่อยให้หมดอายุแล้วใช้รถในระหว่างนั้น หากเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรเรียกตรวจ เจ้าของรถจะต้องแสดงหลักฐาน พ.ร.บ. หากไม่มีหลักฐานหรือขาดการต่ออายุ พ.ร.บ. รถ จะมีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท และสิ่งสำคัญคือเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นก็จะไม่ได้รับความคุ้มครองจาก พ.ร.บ. รถยนต์ นี้อีกด้วย
📌นอกจากจะโดนปรับและไม่ได้รับความคุ้มครองแล้ว ถ้าไม่ต่อพ.ร.บ.รถยนต์ก็จะไม่สามารถทำสิ่งต่อไปนี้ได้ · จะไม่สามารถยื่นต่อภาษีรถยนต์ หรือต่อทะเบียนรถยนต์ได้ · ขั้นต่อมาเมื่อต่อภาษีไม่ได้ แล้วปล่อยให้เกิน 3 ปี ทะเบียนรถจะถูกระงับ · และเมื่อจะไปต่อภาษี ก็ต้องเสียค่าปรับสำหรับการชำระภาษีรถยนต์ย้อนหลังเดือนละ 1% 📌จะเห็นได้ว่าหากไม่ต่อพ.ร.บ.รถยนต์ก็จะนำมาซึ่งการเสียเงินไปโดยใช่เหตุ ฉะนั้นหมั่นคอยเช็ควันหมดอายุของ พ.ร.บ.รถยนต์ ถ้ากำลังจะหมดอายุ ก็สามารถต่อพ.ร.บ. รถ ล่วงหน้าได้ถึง 2 เดือน **ขอขอบคุณบทความจาก บ.ทิพยประกันภัย 💖สนใจทำประกันรถยนต์ กับ ทิพยประกันภัย ขอใบเสนอราคาหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม คลิก 👉https://bit.ly/3saZbIE 💢ประกันชั้น 1,2+,3+ ราคาสุดๆ ที่นี่ 💢ผ่อนง่าย จ่ายสบาย 0%ไม่ง้อบัตรเครดิต 💢ผ่อนอยู่เคลมได้ไม่ต้องเทเบี้ย 💕ฟรี ช่วยเหลือฉุกเฉิน 3,000 บาท** 💕ฟรี ช่วยเหลือฉุกเฉิน มูลค่า 3,000 บาท 💕ฟรี สิทธิซื้อประกันใช้ราคาสมาชิกทั้งครอบครัวตลอดชีพ 📍สนใจสอบถาม/ขอใบเสนอราคา เพิ่มเพื่อนทักแชทครับ.. 📍คลิกเพิ่มเพื่อน https://bit.ly/3FVfsWc 📍ดูประกันแบบอื่นๆได้ที่ https://bit.ly/3GVkPVS ✨รายละเอียดเพิมเติม https://bit.ly/3q6iQcj ✨WebSite: https://bit.ly/3CSo0LZ By #โค้ชโน๊ต ที่ปรึกษาด้านประกันภัย 061-301-3547 #บัตรนายหน้า #ขายประกัน #ประกันผ่อนได้ #สมัครขายประกัน #สมัครนายหน้า #ฟินโบรคเกอร์ #ประกันออนไลน์ #งานเสริม #งานออนไลน์ #อาชีพเสริม **ตามเงื่อนไขบริษัท เกิดอุบัติเหตุเมื่อไหร่ ใจหายทุกที! ต้องกังวลกับภาระต่าง ๆ ที่ตามมา ไม่ว่าจะเป็นค่าซ่อมรถ ชดเชยเสียหายคู่กรณี หากไม่มีประกันรถยนต์ รับรองว่างานเข้า สำหรับใครที่มีประกันภัยชั้นหนึ่ง ก็อุ่นใจเพราะได้รับการคุ้มครองจากบริษัทประกัน เช่น ประกันชั้น 1 รถเก๋ง ผู้ใช้จะได้รับความคุ้มครองแบบจัดเต็ม ครอบคลุมทุกความเสียหาย มาพร้อมกับเบี้ยประกันรถยนต์ที่คุ้มค่า
เมื่อเกิดอุบัติเหตุสำหรับใครที่ลังเลว่า “ซ่อมอู่” กับ “ซ่อมห้าง” ซ่อมที่ไหนดีกว่ากัน และแต่ละที่มีข้อดี ข้อเสียแตกต่างกันอย่างไร เพื่อเป็นทางเลือกให้ตอบโจทย์ตามและสไตล์ทุกการขับขี่ “ซ่อมอู่” กับ “ซ่อมห้าง” ของประกันรถยนต์ ที่ไหนดีกว่ากัน ? การเลือกระหว่างซ่อมอู่ หรือซ่อมห้าง ควรพิจารณาเลือกตามคุณสมบัติ ความน่าเชื่อถือและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เพื่อให้ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ของการใช้รถ ตลอดจนความสะดวกในการเดินทางไปยังศูนย์บริการ หรืออู่ซ่อมนาน ๆ เพราะอย่างไรก็ตามแม้ว่าจะซ่อมห้าง หรือซ่อมอู่ก็มีทั้งข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน เรามาดูกันว่าทั้ง 2 ประเภทแตกต่างกันอย่างไร “ซ่อมอู่” กับ ประกันรถยนต์ การเลือกซ่อมอู่ เมื่อรถของคุณเกิดอุบัติเหตุ ต้องนำรถเข้าซ่อมอู่ธรรมดาทั่วไป ซึ่งแบ่งออกได้ 2 ประเภท ดังนี้ 1. อู่ในเครือบริษัทประกัน คือ อู่ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากบริษัทประกันที่ทำไว้ เวลาเรานำรถไปซ่อม หรือไปเคลมประกัน ก็สามารถนำรถเข้าไปซ่อมได้เลย และเมื่อซ่อมเสร็จก็นำรถออกมาได้ทันที โดยไม่ต้องสำรองเงินจ่ายไปก่อน หรือเสียเงินเพิ่มเติม ในกรณีที่ไม่ได้ซ่อมนอกเหนือจากที่ตกลงกับบริษัทประกันเอาไว้ 2. อู่นอกเครือบริษัทประกัน คือ อู่ที่ไม่ได้อยู่ในการรับรองของบริษัทประกันที่ทำไว้ ซึ่งอาจเป็นอู่ซ่อมรถใกล้บ้านผู้ขับขี่ หรือเป็นอู่ที่ผู้ขับขี่ประสงค์จะนำเข้าซ่อมเองหรือเป็นอู่ที่มีคนแนะนำว่าทำดี ฯลฯ ในกรณีซ่อมอู่ที่อยู่นอกเครือประกันแบบนี้ ผู้เอาประกันจะต้องสำรองเงินจ่ายไปก่อน จากนั้นจึงนำใบเสร็จไปเบิกกับบริษัทประกันภายหลัง ข้อดีของการซ่อมอู่ 1. ค่าเบี้ยประกันรถถูกกว่าซ่อมห้าง 2. มีอู่ให้เลือกมากมาย ทั้งอู่ใกล้บ้านหรืออู่ที่มีคนแนะน 3. ราคาค่าซ่อมสามารถต่อรองได้ง่ายกว่าศูนย์บริการ 4. ระยะเวลาในการซ่อมไม่นานเท่าซ่อมห้าง ข้อเสียของการซ่อมอู่ 1. อะไหล่ที่ใช้อาจไม่ใช่ของแท้ และบางครั้งอาจนำอะไหล่เก่ามาเปลี่ยนให้ 2. หากเกิดปัญหาหลังซ่อม บางอู่อาจไม่รับผิดชอบหรือแก้ไขให้ 3. อาจโดนโกงเรื่องค่าอะไหล่ และค่าแรงที่ถูกคิดเงินเกินจริง 4. งานซ่อมอาจออกมาไม่ดี ไม่เนี้ยบ ไม่สวย ไม่สมบูรณ์ “ซ่อมห้าง” กับ ประกันรถยนต์ การเลือกซ่อมห้าง คือ การนำรถไปซ่อมที่ศูนย์บริการรถยนต์ตามยี่ห้อของผู้ขับขี่ ซึ่งโดยปกติมักจะต้องนำไปซ่อมศูนย์ฯ ที่ผู้ขับขี่ออกรถมา หรือซื้อที่ไหนก็ซ่อมที่นั่น หรืออาจเป็นศูนย์อื่นที่สะดวกกว่าศูนย์ที่ออกรถมาก็ได้ แต่เป็นของยี่ห้อที่ผู้ขับขี่ขับ ที่เรียกกันว่าซ่อมห้างนั้น เพราะศูนย์บริการทั่วไปมักจดทะเบียนเป็น ห้างหุ้นส่วนจำกัด ซึ่งเรียกสั้น ๆ ว่าซ่อมห้างนั่นเอง ข้อดีของการซ่อมห้าง 1. มีอะไหล่แท้ไว้รองรับ พร้อมซ่อมได้ทันที 2. รับประกันงานซ่อม หากมีปัญหาในระยะเวลารับประกัน 3. มีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน แยกกันทำงานอย่างชัดเจน เช่น ช่างซ่อมเครื่องยนต์ หรือช่างซ่อมช่วงล่างฯลฯ 4. การซ่อมออกมามีมาตรฐาน ข้อเสียของการซ่อมห้าง 1. ราคาเบี้ยประกันสูงกว่า 2. ราคาแพงกว่าซ่อมอู่ เพราะมีค่าภาษี และค่าแรงที่สูงกว่า หรือมีส่วนต่างอื่น ๆ เพิ่มเติม 3. ใช้เวลาในการซ่อมนาน เนื่องจากต้องรอคิวเข้าซ่อม และบางครั้งระยะเวลา ในการซ่อมไม่แน่นอน 4. อะไหล่บางอย่างไม่เสีย แต่ก็จับเปลี่ยน ทำให้เสียค่าใช้จ่ายมากขึ้น 5. บางจังหวัดอาจไม่มีศูนย์บริการยี่ห้อรถที่เราใช้ วิธีการดูว่าประกันรถยนต์ “ซ่อมอู่” หรือ “ซ่อมห้าง” สำหรับผู้ขับขี่ที่มีประกันชั้นหนึ่ง สามารถดูได้ที่หน้ากรมธรรม์ของคุณ จะระบุไว้อย่างชัดเจน หรือสามารถโทรสอบถามบริษัทประกันรถยนต์ที่ดูแลคุณ และไม่ว่าซ่อมอู่หรือซ่อมห้างจะมีความแตกต่างกันมาน้อยเพียงใด ท้ายที่สุดการเลือกใช้บริการที่ใดก็อยู่ที่ตัวของผู้ใช้รถว่าสะดวกแบบไหนมากกว่า และการเลือกว่าจะ “ซ่อมห้าง” กับ “ซ่อมอู่” ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่มีผลต่อค่าเบี้ยด้วยเช่นกัน ซึ่งตอนต่ออายุประกันอย่าลืมตรวจสอบเงื่อนไขในส่วนนี้ด้วย เมื่อรู้แล้วว่าซ่อมอู่และซ่อมห้างแตกต่างกันอย่างไร มาเลือกประกันรถยนต์ชั้น 1 จากทิพยประกันภัยที่จะตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การขับขี่ มีให้พร้อมไม่ว่าจะอยากซ่อมอู่ หรือ ซ่อมห้างก็มีทั้งหมด เช็คราคาเลย **ขอขอบคุณบทความจาก บ.ทิพยประกันภัย 💖สนใจทำประกันรถยนต์ กับ ทิพยประกันภัย ขอใบเสนอราคาหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม คลิก 👉https://bit.ly/3utC0ts 💢ประกันชั้น 1,2+,3+ ราคาสุดๆ ที่นี่ 💢ผ่อนง่าย จ่ายสบาย 0%ไม่ง้อบัตรเครดิต 💢ผ่อนอยู่เคลมได้ไม่ต้องเทเบี้ย 💕ฟรี ช่วยเหลือฉุกเฉิน 3,000 บาท** 💕ฟรี ช่วยเหลือฉุกเฉิน มูลค่า 3,000 บาท 💕ฟรี สิทธิซื้อประกันใช้ราคาสมาชิกทั้งครอบครัวตลอดชีพ 📍สนใจสอบถาม/ขอใบเสนอราคา เพิ่มเพื่อนทักแชทครับ.. 📍คลิกเพิ่มเพื่อน https://bit.ly/3FVfsWc 📍ดูประกันแบบอื่นๆได้ที่ https://bit.ly/3GVkPVS ✨รายละเอียดเพิมเติม https://bit.ly/3q6iQcj ✨WebSite: https://bit.ly/3CSo0LZ By #โค้ชโน๊ต ที่ปรึกษาด้านประกันภัย 061-301-3547 #บัตรนายหน้า #ขายประกัน #ประกันผ่อนได้ #สมัครขายประกัน #สมัครนายหน้า #ฟินโบรคเกอร์ #ประกันออนไลน์ #งานเสริม #งานออนไลน์ #อาชีพเสริม **ตามเงื่อนไขบริษัท เช็คอัพเดตปี 65! ต่อใบขับขี่ออนไลน์ ต้องทำอย่างไร? ขึ้นชื่อว่ายุคโควิด-19 ไม่มีคำว่าเหมือนเดิม แม้กระทั่งการติดต่อธุระต่าง ๆ กับหน่วยงานราชการ จากเดิมต้องเดินตรงเข้าไปถึงสำนักงานเท่านั้น ปัจจุบันต้องพากันปรับตัวเข้ามาใช้โลกออนไลน์มากขึ้น ไม่เว้นแม้แต่การต่อใบขับขี่ที่ดูเหมือนจะทำออนไลน์ไม่ได้ แต่ทางกรมการขนส่งทางบกก็ได้ออกประกาศให้เราสามารถต่อใบขับขี่ออนไลน์กันได้แล้วนะ ต่อใบขับขี่ออนไลน์ 2565 ทำอย่างไร? สำหรับการต่อใบขับขี่ในปี 2565 นี้ ขั้นตอนกว่าครึ่งจะถูกปรับให้อยู่ในรูปแบบ ‘ออนไลน์’ เช่น การอบรมออนไลน์ จองคิวเข้ามาดำเนินการ ณ กรมการขนส่งทางบก ก็ยังต้องทำการจองผ่านแอปพลิเคชัน ความยากมันอยู่ที่ความไม่คุ้นชินกับระบบต่อใบขับขี่ออนไลน์นี่แหละ หลายคนอาจจะมองว่าหลายขั้นตอน ดูยุ่งยาก บอกได้เลยว่าสะดวกกว่าที่คิด ไม่เชื่อมาทำไปพร้อม ๆ กันเลย 3 เอกสารสำคัญสำหรับทำใบขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นการต่ออายุใบขับขี่แบบ 2 ปีเป็น 5 ปี หรือ 5 ปี เป็น 5 ปี เอกสารที่ต้องเตรียมจะเหมือนกันทุกอย่าง ดังนี้ 1. ใบขับขี่ใบเดิม ไม่ว่าจะเป็นใบที่กำลังจะหมดอายุ หรือใบที่หมดอายุแล้วก็จำเป็นต้องมี 2. บัตรประชาชนตัวจริง 3. ใบรับรองแพทย์ ที่มีอายุไม่เกิน 1 เดือน สำหรับการทำใบขับขี่รถยนต์หรือต่ออายุใบขับขี่ทุกประเภทนับตั้งแต่วันที่ 19 ก.พ. 2564 เป็นต้นมา จำเป็นต้องยื่นใบรับรองแพทย์ที่มีอายุไม่เกิน 1 เดือนใหม่ทุกครั้ง เรียกได้ว่าเป็นข้อมูลสำคัญที่ต้องอัพเดตเลย เช็คให้ชัวร์ ใบขับขี่รถยนต์หมดอายุไปต่อหรือสอบใหม่ · คนลอยตัว สำหรับคนที่สบายหายห่วงไม่ต้องเสียเวลาสอบใหม่ก็คือคนที่ต่อใบขับขี่ล่วงหน้านั่นเอง ซึ่งกรมการขนส่งทางบกก็ได้อัพเดตข้อมูลล่าสุดมาแล้วว่า สามารถต่ออายุใบขับขี่ล่วงหน้าได้ถึง 90 วัน และรับการอบรมทำใบขับขี่ออนไลน์เพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น · อบรม + สอบข้อเขียนใหม่ ใครที่ครอบครองใบขับขี่รถยนต์ที่หมดอายุไปเกินกว่า 1 ปี จะต้องอบรมใหม่ 2 ชั่วโมงพร้อมกับทดสอบข้อเขียนใหม่ · อบรม + สอบข้อเขียน + ทดสอบขับใหม่ หากใบขับขี่หมดอายุเกิน 3 ปี กรณีนี้ยุ่งยากประหนึ่งทำใบขับขี่ครั้งแรก เพราะต้องอบรม 2 ชั่วโมง สอบข้อเขียน และสอบขับรถกันใหม่ทั้งหมด ขั้นตอนต่อใบขับขี่ออนไลน์ ต้องผ่านการอบรมทุกคน ความแปลกใหม่อีกอย่างของการต่อใบขับขี่ออนไลน์คือ ไม่ว่าใบขับขี่ของคุณจะเป็นประเภท 2 ปี หรือ 5 ปี จะทำการต่อใบขับขี่ล่วงหน้า หรือหมดอายุมานานแล้วจำเป็นต้อง ‘อบรมทุกคน’ ดังนั้น ทำตามขั้นตอนนี้ได้เลย 1. ทำการเข้าไปลงทะเบียนต่อใบขับขี่ออนไลน์ที่เว็บไซต์ www.dlt-elearning.com โดยใส่ข้อมูลให้ถูกต้องครบถ้วน 2. เลือกการอบรมตามประเภทใบขับขี่รถยนต์ของคุณ โดยในเว็บไซต์จะมีทั้งหมด 4 ประเภท แบ่งออกเป็น รถส่วนบุคคล รถขนส่ง รถสาธารณะ และ รถส่วนบุคคลที่หมดอายุเกิน 1 ปีขึ้นไป 3. ทำแบบทดสอบก่อนอบรม และรับชมวิดีโอจนจบ (กดออกก่อนได้รับสิทธิดูใหม่อีกครั้งนะ) 4. ทำแบบทดสอบหลังอบรม พร้อมทราบผล อย่าลืมบันทึกภาพหน้าจอเก็บไว้เป็นหลักฐาน 5. หากผ่านการอบรม สามารถจองคิวผ่าน DLT Smart Queue เพื่อดำเนินการนัดวันและเวลาที่ต้องเข้าไปทดสอบสมรรถภาพที่กรมขนส่ง เตรียมตัว เตรียมใจ เตรียมเงินจ่ายค่าใบขับขี่ ทำการต่อใบขับขี่ออนไลน์กันมาครึ่งทาง เมื่อถึงวันและเวลาที่ทำการนัดหมายผ่านแอปฯ แล้ว ให้เข้ามาดำเนินการต่อที่กรมการขนส่งทางบกตามขั้นตอนเหล่านี้ได้เลย 1. ยื่นเอกสารและหลักฐานให้พร้อม 2. ทำการทดสอบสมรรถภาพร่างกาย 3. ออกใบขับขี่รถยนต์ใบใหม่ 4. เสียค่าธรรมเนียมทำใบขับขี่ ตามประเภทรถ รถยนต์ 505 บาท รถจักรยานยนต์ 255 บาท การต่อใบขับขี่ออนไลน์ไม่ยากอย่างที่คิด เพราะทุกขั้นตอนที่ว่านี้สามารถทำผ่านคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือ และเลือกทำในเวลาที่สะดวกได้ เพราะระบบและเว็บไซต์เขาเปิดตลอด 24 ชั่วโมง แต่ขอเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ห้ามทำธุระเหล่านี้ระหว่างขับขี่ ถึงแม้จะต่อใบขับขี่ออนไลน์แล้วก็ไม่ได้แปลว่าจะได้รับความคุ้มครองเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ทางที่ดีอย่าลืมทำ พ.ร.บ. รถยนต์จาก TIPINSURE ติดไว้ เกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้นมายังได้รับความคุ้มครอง **ขอบคุณบทความดีดี จาก บ.ทิพยประกันภัย 💖สนใจทำประกันรถยนต์ กับ ทิพยประกันภัย ขอใบเสนอราคาหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม คลิก 👉https://bit.ly/3utC0ts 💢ประกันชั้น 1,2+,3+ ราคาสุดๆ ที่นี่ 💢ผ่อนง่าย จ่ายสบาย 0%ไม่ง้อบัตรเครดิต 💢ผ่อนอยู่เคลมได้ไม่ต้องเทเบี้ย 💕ฟรี ช่วยเหลือฉุกเฉิน 3,000 บาท** 💕ฟรี ช่วยเหลือฉุกเฉิน มูลค่า 3,000 บาท 💕ฟรี สิทธิซื้อประกันใช้ราคาสมาชิกทั้งครอบครัวตลอดชีพ 📍สนใจสอบถาม/ขอใบเสนอราคา เพิ่มเพื่อนทักแชทครับ.. 📍คลิกเพิ่มเพื่อน https://bit.ly/3FVfsWc 📍ดูประกันแบบอื่นๆได้ที่ https://bit.ly/3GVkPVS ✨รายละเอียดเพิมเติม https://bit.ly/3q6iQcj ✨WebSite: https://bit.ly/3CSo0LZ By #โค้ชโน๊ต ที่ปรึกษาด้านประกันภัย 061-301-3547 #บัตรนายหน้า #ขายประกัน #ประกันผ่อนได้ #สมัครขายประกัน #สมัครนายหน้า #ฟินโบรคเกอร์ #ประกันออนไลน์ #งานเสริม #งานออนไลน์ #อาชีพเสริม **ตามเงื่อนไขบริษัท สถานการณ์ยุคโควิด-19 อะไร ๆ ก็เปลี่ยนไป แค่นั่งอยู่ที่บ้านก็สามารถจัดการธุระหลาย ๆ อย่างได้แล้ว ตั้งแต่เรื่องเล็ก ๆ ไปจนถึงธุระแบบจริงจังก็สามารถทำผ่านโลกออนไลน์ได้ เช่นเดียวกับการทำใบขับขี่รถยนต์ที่ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปถึงขนส่งกันแล้ว เพราะตอนนี้เขามีการอบรมใบขับขี่ออนไลน์ จะทำตอนไหนก็ได้ ระบบเปิดตลอด 24 ชั่วโมง ใครที่ใบขับขี่กำลังจะหมดอายุก็สบายใจได้เลย
เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่ต้องการต่ออายุใบขับขี่ กรมการขนส่งทางบกจึงได้ออกมาตรการเปิดอบรมใบขับขี่ออนไลน์ผ่านระบบ e-Learning ขึ้นมา แต่หลายคนอาจจะยังงง ๆ ว่าจะอบรมยังไง มีขั้นตอนอะไรบ้าง ซับซ้อนขนาดไหน เตรียมหยิบโทรศัพท์มาเขาเว็บให้พร้อมแล้วไปลุยขั้นตอนการอบรมใบขับขี่ออนไลน์กับ TIPINSURE กัน ใครที่ต้องทำใบขับขี่ออนไลน์ สำหรับการอบรมใบขับขี่ออนไลน์นี้ต้องแจ้งเลยว่ามีไว้สำหรับผู้ที่ต้องการต่ออายุใบขับขี่รถยนต์เท่านั้น ส่วนผู้ที่ต้องการทำใบขับขี่ใหม่ ไม่เคยมีใบขับขี่มาก่อนจำเป็นต้องเข้าไปรับการอบรม ทดสอบ และทำใบขับขี่ที่สำนักงานแทน ขั้นตอนการอบรมใบขับขี่ออนไลน์ ฉบับอัปเดต พ.ศ. 2565 1. เข้าไปที่เว็บไซต์ www.dlt-elearning.com เพื่อทำการลงทะเบียนทำใบขับขี่รถยนต์ 2. กรอกข้อมูลให้ครบถ้วน ได้แก่ เลขบัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์ และวันเดือนปีเกิด จากนั้นกดยืนยัน 3. เลือกการอบรมให้ตรงตามประเภทของใบขับขี่ที่ต้องการต่ออายุ ขั้นตอนนี้ในหน้าเว็บไซต์จะมีให้เลือกทั้งหมด 3 ประเภท ได้แก่ 1. ใบขับขี่รถส่วนบุคคล ระยะเวลาอบรม 1 ชั่วโมง 2. ใบขับขี่รถขนส่ง ระยะเวลาอบรม 2 ชั่วโมง 3. ใบขับขี่รถสาธารณะ ระยะเวลาอบรม 3 ชั่วโมง 4. เลือกหัวข้อการอบรมตามลำดับ โดยเรียงลำดับดังนี้ · ทำแบบทดสอบก่อนอบรม ส่วนนี้จะเป็นคำถามแบบมีตัวเลือกทั้งหมด 3 ข้อ เมื่อเสร็จแล้วไปขั้นตอนต่อไปได้เลย · ชมวิดีโออบรมการขับรถจนครบจำนวนชั่วโมง หากรับชมวิดีโอไม่จบ กดข้าม หรือออกจากหน้าเว็บไซต์จะต้องทำการรับชมใหม่อีกครั้ง · ทำแบบทดสอบหลังชมวิดีโอด้วยข้อสอบชุดเดียวกับแบบทดสอบก่อนอบรม เมื่อทำการอบรมเสร็จแล้ว ระบบจะทำการประมวลผลการอบรมทันที หากผ่านการอบรมอย่าลืมแคปเจอร์หน้าจอไว้เพื่อเป็นหลักฐานสำหรับทำใบขับขี่ด้วยนะ ผ่านการอบรมแล้ว ไปต่อที่การจองคิวทำใบขับขี่ออนไลน์ เมื่อผ่านการอบรมแล้วไม่ได้แปลว่าเป็นการต่ออายุใบขับขี่รถยนต์อย่างทันที เพราะนี่เป็นเพียงการเริ่มต้นทำนั้น จำเป็นจะต้องทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ 1. จองคิวเพื่อยื่นผลการอบรมสำหรับทำใบขับขี่ออนไลน์ ด้วยแอปฯ DLT Smart Queue โดยทำการเลือกวันและเวลาที่ต้องการเข้ารับบริการทำใบขับขี่ผ่านทางแอปฯ ได้เลย อย่าลืมแคปเจอร์หน้าจอเก็บไว้เพื่อแสดงเป็นหลักฐานแก่เจ้าหน้าที่อีกเช่นกัน 2. เตรียมเอกสารสำหรับการทำใบขับขี่รถยนต์ให้พร้อม ได้แก่ ใบขับขี่ใบเดิม บัตรประชาชนตัวจริง และใบรับรองแพทย์ 3. เมื่อถึงวันที่ทำการจองคิวไว้ สามารถเข้าไปที่สำนักงานขนส่งพร้อมแสดงเอกสารในการทำใบขับขี่และแสดงหลักฐานการอบรมใบขับขี่ออนไลน์แก่เจ้าหน้าที่ได้เลย ขึ้นชื่อว่าปี 2565 อะไร ๆ ก็สะดวกสบายมากขึ้น แม้กระทั่งการทำใบขับขี่รถยนต์ก็สามารถทำหลาย ๆ อย่างผ่านโลกออนไลน์ได้แล้ว แต่ถึงแม้ว่ามันจะให้ความสะดวกแค่ไหนก็อย่าเผลอลืมเวลาเชียวล่ะ เพราะผลการอบรมใบขับขี่ออนไลน์สำหรับการต่ออายุใบขับขี่มีอายุเพียง 6 เดือนนับจากวันที่ผ่านการอบรมเท่านั้น แต่หากเกิดเหตุสุดวิสัยไม่สามารถเดินทางไปในวันที่การจองคิวไว้ TIPINSURE แนะนำให้ทำการยกเลิกการจองและเลือกวันใหม่อีกครั้งจะดีที่สุด ส่วนใครที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับช่วงเวลาที่เปิดให้เข้าไปทดสอบหรือติดต่อธุระอื่น ๆ สามารถติดตามข่าวสารการทำใบขับขี่ออนไลน์อย่างใกล้ชิดได้ที่เว็บไซต์กรมการขนส่งได้เลย สุดท้ายนี้ สำหรับใครที่มีใบขับขี่แล้ว ทำต่ออายุใบขับขี่เรียบร้อยแล้วก็อย่าลืมเรื่องประกันรถด้วยนะ สำคัญไม่แพ้กันเลยล่ะ ขึ้นชื่อว่าอุบัติเหตุ ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไร ดังนั้น มีประกันรถติดไว้อุ่นใจกว่าเยอะ สามารถเข้ามาเลือกประกันรถที่ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์การขับขี่ของตัวเองได้ที่นี่เลย **ขอขอบคุณบทความจาก บ.ทิพยประกันภัย 💖สนใจทำประกันรถยนต์ กับ ทิพยประกันภัย ขอใบเสนอราคาหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม คลิก 👉https://bit.ly/3utC0ts 💢ประกันชั้น 1,2+,3+ ราคาสุดๆ ที่นี่ 💢ผ่อนง่าย จ่ายสบาย 0%ไม่ง้อบัตรเครดิต 💢ผ่อนอยู่เคลมได้ไม่ต้องเทเบี้ย 💕ฟรี ช่วยเหลือฉุกเฉิน 3,000 บาท** 💕ฟรี ช่วยเหลือฉุกเฉิน มูลค่า 3,000 บาท 💕ฟรี สิทธิซื้อประกันใช้ราคาสมาชิกทั้งครอบครัวตลอดชีพ 📍สนใจสอบถาม/ขอใบเสนอราคา เพิ่มเพื่อนทักแชทครับ.. 📍คลิกเพิ่มเพื่อน https://bit.ly/3FVfsWc 📍ดูประกันแบบอื่นๆได้ที่ https://bit.ly/3GVkPVS ✨รายละเอียดเพิมเติม https://bit.ly/3q6iQcj ✨WebSite: https://bit.ly/3CSo0LZ By #โค้ชโน๊ต ที่ปรึกษาด้านประกันภัย 061-301-3547 #บัตรนายหน้า #ขายประกัน #ประกันผ่อนได้ #สมัครขายประกัน #สมัครนายหน้า #ฟินโบรคเกอร์ #ประกันออนไลน์ #งานเสริม #งานออนไลน์ #อาชีพเสริม **ตามเงื่อนไขบริษัท 🚗การขับรถ ช่วงที่ฝนกำลังตก ใคร ๆ ก็รู้ว่า มีอันตรายแฝงอยู่ …แต่จะทำยังไง? เมื่อการขับรถ ถือเป็นชีวิตประจำวันของหลายๆ คน ส่วนความปลอดภัย ถือเป็นเรื่องสำคัญกับชีวิตของเราทุกคน
. 1.ตรวจสอบความพร้อมของรถก่อนเสมอ . 2.เช็กที่ปัดน้ำฝน ยางปัดน้ำฝน ต้องปัดน้ำฝนได้ดี . 3.สภาพของล้อยาง ไม่มีรอยฉีกขาด บวม ดอกยางไม่สึกหรอ มีความลึกพอสามารถยึดเกาะถนนและรีดน้ำได้ดี . 4.เปิดไฟหน้ารถตลอดเวลาที่ฝนตก . 5.เว้นระยะห่างจากรถคันหน้ามากกว่าปกติ ประมาณ 10-15 เมตร . 6.ขับรถอยู่ในช่องทางของตนเอง ไม่หยุดรถหรือเปลี่ยนช่องทางกะทันหัน . 7.ใช้ความเร็วให้เหมาะสมกับทัศนวิสัยการมองเห็น . 8.เพิ่มการสังเกตแหล่งน้ำขังบนพื้นผิวถนน ชะลอความเร็ว ป้องกันรถเหินน้ำ . 9.ไม่ควรเปิดไฟกะพริบหรือไฟฉุกเฉิน เพื่ออาจสร้างความเข้าใจแก่เพื่อนร่วมทางได้ . 10.เมื่อรถลื่นไถลไม่ควรเบรกทันที ค่อยๆ ลดความเร็ว หรือใช้เกียร์ต่ำ . ✨สนใจทำประกันรถ"ราคาสมาชิก" 🔴ฟรี สิทธิซื้อประกันใช้ราคาสมาชิกทั้งครอบครัวตลอดชีพ 🔴สอบถาม/ขอใบเสนอราคา เพิ่มเพื่อนทักแชทครับ.. 💖คลิกเพิ่มเพื่อน https://bit.ly/3FVfsWc 💖รายละเอียดเพิมเติม https://bit.ly/3q6iQcj 💖WebSite: https://bit.ly/3CSo0LZ By #โค้ชโน๊ต ที่ปรึกษาด้านประกันภัย 061-301-3547 #บัตรนายหน้า #ขายประกัน #ประกันผ่อนได้ #สมัครขายประกัน #สมัครนายหน้า #ฟินโบรคเกอร์ #ประกันออนไลน์ #งานเสริม #งานออนไลน์ #อาชีพเสริม ‘อุบัติเหตุ’ คือสิ่งที่ไม่เข้าใครออกใคร ถึงแม้จะไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้นแต่มันก็มักจะมาทักทายเราโดยไม่ทันตั้งตัว ยิ่งเป็นอุบัติเหตุจากการขับขี่ด้วยแล้ว ต่อให้ระมัดระวังแค่ไหนก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้ TIPINSURE แนะนำว่าวางแผนรับมือไว้ก็ไม่เสียหาย ด้วยการซื้อประกันรถยนต์นี่แหละ บอกเลยว่ามีไว้แล้วมันช่วยเราได้เยอะจริง ๆ รวมถึงเรื่องการศึกษาว่าถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาจะต้องทำอย่างไร
1. หยุดรถและติดต่อบริษัทประกันรถยนต์ที่คุ้มครอง ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุแบบไหน มีคู่กรณีเป็นบุคคลหรือสัตว์ สิ่งของ สิ่งแรกที่ควรต้องทำก็คือหยุดรถในจุดที่เกิดเหตุ และรีบทำการติดต่อบริษัทประกันรถยนต์ที่ได้ทำการซื้อความคุ้มครองไว้เพื่อให้เจ้าหน้าที่รีบมาดำเนินการประเมินความเสียหายโดยด่วน หากไม่ใช่สถานที่เปลี่ยวหรืออันตราย TIPINSURE แนะนำว่าไม่ควรขยับรถ 2. ตั้งสติ ใจเย็น อย่าเพิ่งพูดอะไร ควรตั้งสติลำดับเหตุการณ์ให้ดีว่าเกิดอะไรขึ้นและอย่าเพิ่งยอมรับผิดโดยที่ไม่มีเจ้าหน้าที่จากบริษัทประกันรถยนต์อยู่ด้วย เพราะอีกฝ่ายอาจจะเข้าใจว่าคุณเป็นฝ่ายผิด และไม่ควรกล่าวโทษอีกฝ่ายโดยเด็ดขาดเพราะอาจจะนำไปสู่การดูหมิ่นได้ ขอให้ใช้ความใจเย็นเข้าสู้ เพราะหากมีประกันรถยนต์ ประเภท 1 อยู่แล้วก็สบายใจได้เลย มีคนคุ้มครองแน่นอน 3. จดจำข้อมูลของคู่กรณี หากในกรณีที่อีกฝ่ายทำท่าจะหนีหาย ควรจดจำลักษณะรถของคู่กรณี หรือเวลาที่เกิดเหตุไว้เพื่อแจ้งดำเนินการต่อไป แต่สิ่งที่ไม่ควรทำเลยก็คือการขอยึดใบขับขี่ของอีกฝ่ายไว้ เพราะอาจนำไปสู่การโดนข้อหาลักทรัพย์ได้ หรืออาจจะสอบถามคู่กรณีมาก่อนได้ว่ารถของอีกฝ่ายเป็นรถประกันชั้น 1 หรือไม่ 4. ให้ข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่ให้ครบถ้วน เมื่อเจ้าหน้าที่จากบริษัทประกันรถยนต์และเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึง ควรแจ้งข้อมูลชื่อ ที่อยู่ เลขทะเบียนรถของคุณ และรายละเอียดอุบัติเหตุแก่เจ้าหน้าที่ให้ครบถ้วน 5. แจ้งตำรวจทันที จำเป็นต้องแจ้งตำรวจ เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้ามาเป็นพยานและรับทราบอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นรวมถึงช่วยอำนวยความสะดวกในการดูจุดเกิดเหตุและตีเส้นตำแหน่งรถหากมีความจำเป็นต้องนำรถเข้าข้างทาง 6. หาพยานช่วยยืนยัน สิ่งที่ห้ามลืมเลยก็คือการหาพยานที่เห็นเหตุการณ์รอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นผู้คนในบริเวณนั้น หรือภาพจากกล้องของรถด้านหลัง ภาพจากกล้องวงจรปิด หรืออื่น ๆ 7. ไปโรงพยาบาล หากเกิดอาการบาดเจ็บควรรีบไปโรงพยาบาลเพื่อพบแพทย์ยืนยันอาการบาดเจ็บที่เกิดจากอุบัติเหตุ หากปล่อยไว้และเกิดการบาดเจ็บภายหลังอาจจะทำให้เรียกร้องการรับผิดชอบจากอีกฝ่ายได้ยากขึ้น 8. แจ้งความ เมื่อเกิดอุบัติเหตุใด ๆ ก็ตามที่มีความเสียหายเกิดขึ้น ควรแจ้งความแก่ตำรวจทุกครั้งเพื่อให้มีเอกสารรับรองว่าอุบัติเหตุได้เกิดขึ้นจริง เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายแจ้งความดำเนินคดีกลับหรือปฏิเสธความรับผิดชอบในภายหลัง 9. ตกลงเงื่อนไขการจ่ายค่าเสียหาย ส่วนนี้จำเป็นจะต้องมีเจ้าหน้าที่จากบริษัทประกันรถยนต์อยู่ด้วย เพื่อตกลงกันเรื่องค่าเสียหายและแนะนำว่าควรให้บริษัทประกันชดใช้หรือจะต้องจ่ายค่าเสียหายเอง แต่ถ้าเป็นรถประกันชั้น 1 แน่นอนว่าเมื่อเกิดอุบัติเหตุคุณก็เบาใจได้เลย เพราะมีประกันภัยรถยนต์ 1 คอยดูแล 10. อย่าด่วนรอมชอม อย่าเพิ่งรีบตัดสินใจยอมความ เพราะหากเกิดการบาดเจ็บทางร่างกายหรือพบความเสียหายที่ตัวรถในภายหลังจะดำเนินเรื่องและเรียกร้องค่าเสียหายเพิ่มเติมได้ยากขึ้น เพราะคู่กรณีจะถือว่าคุณยอมความไปแล้วนั่นเอง ทั้ง 10 สิ่งนี้คงจะเป็นเรื่องที่ครอบคลุมเลยล่ะสำหรับมือใหม่หัดขับหรือมือเก๋าที่มักจะทำตัวไม่ถูกเมื่อเกิดอุบัติเหตุ หากตั้งสติและทำตามนี้รับรองว่าอุบัติเหตุที่เกิดจะไม่น่าปวดหัวอย่างที่คิดแน่ และที่สำคัญคือควรมีประกันรถยนต์ประเภท 1 ติดไว้เลย เพราะมีแล้วชีวิตดีมาก คุ้มครองทั้งมีคู่กรณีหรือไม่มีคู่กรณี ไม่ต้องควักกระเป๋าจ่ายค่าเสียหายเองอีกด้วย ** ขอขอบคุณบทความจาก ทิพยประกันภัย 💖สนใจทำประกันรถยนต์ กับ ทิพยประกันภัย ขอใบเสนอราคาหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม คลิก 👉https://bit.ly/3utC0ts 💢ประกันชั้น 1 ราคาสุดๆ ที่นี่ 💢ผ่อนง่าย จ่ายสบาย 0%ไม่ง้อบัตรเครดิต 💢ผ่อนอยู่เคลมได้ไม่ต้องเทเบี้ย 💕ฟรี ช่วยเหลือฉุกเฉิน 3,000 บาท** 💕ฟรี ช่วยเหลือฉุกเฉิน มูลค่า 3,000 บาท 💕ฟรี สิทธิซื้อประกันใช้ราคาสมาชิกทั้งครอบครัวตลอดชีพ 📍สนใจสอบถาม/ขอใบเสนอราคา เพิ่มเพื่อนทักแชทครับ.. 📍คลิกเพิ่มเพื่อน https://bit.ly/3FVfsWc 📍ดูประกันแบบอื่นๆได้ที่ https://bit.ly/3GVkPVS ✨รายละเอียดเพิมเติม https://bit.ly/3q6iQcj ✨WebSite: https://bit.ly/3CSo0LZ By #โค้ชโน๊ต ที่ปรึกษาด้านประกันภัย 061-301-3547 #บัตรนายหน้า #ขายประกัน #ประกันผ่อนได้ #สมัครขายประกัน #สมัครนายหน้า #ฟินโบรคเกอร์ #ประกันออนไลน์ #งานเสริม #งานออนไลน์ #อาชีพเสริม **ตามเงื่อนไขบริษัท 📌ถาม:อายุของ "ยางรถยนต์" ไม่ควรใช้เกิน 2 ปี เพราะยางจะเสื่อมสภาพ...จริงไหม ?
📌ตอบ:ไม่จริง : อายุการใช้งานของยางนับตั้งแต่ถูกผลิต อยู่ที่ 6 ปี ซึ่งไม่ถือว่านานไป สำหรับยางที่มีคุณภาพสูงพอ ✳หลายคนสงสัยว่า ยางรถยนต์ของเราความจริงแล้ว สามารถใช้งานได้กี่ปีกันแน่ เพราะเคยถามร้านยาง ช่าง หรือเจ้าของอู่ ก็ได้คำตอบคล้ายๆ กันว่า "ไม่ควรใช้เกิน 2 ปี" ก็ควรเปลี่ยนได้แล้ว ความจริงเรื่องนี้ล้วนมีผลประโยชน์ ต่อการขายยางใหม่เข้ามาเกี่ยวด้วย ผู้ที่มีสำนึกด้านความปลอดภัย จึงเชื่อกันสนิทใจ ว่าเป็นความจริง ✳สิ่งที่กำหนดว่า "ยาง" ของรถ ไม่ควรถูกใช้งานอีกต่อไป มีอยู่ด้วยกัน 3 อย่าง อย่างแรกคือ "ความลึกของดอกยาง" สิ่งนี้มีผลโดยตรงต่อความปลอดภัยเมื่อขับบนถนนเปียก เพราะต้องช่วยรีดน้ำ เพื่อให้หน้ายางสัมผัสกับผิวถนนได้ดี ค่าที่เหมาะสมทางเทคนิค คือ ไม่ควรต่ำกว่า 3 มม. และความลึกของดอกยางใหม่เอี่ยมจะอยู่ประมาณ 8-9 มม. ✳สิ่งที่ 2 ที่กำหนดว่ายางหมดอายุ ที่จะใช้งานได้อย่างปลอดภัย คือ "ความชำรุดที่ส่งผลถึงโครงสร้างของยาง" เช่น ถูกของมีคมบาดเป็นแผลใหญ่ หรือโครงสร้างช้ำจากการเกิดอุบัติเหตุ เช่น ปีนขอบทางเท้าอย่างแรง จนขอบกระทะล้อชำรุด ซึ่งหมายความว่า โครงสร้างของหน้ายางโดยเฉพาะแก้มยางต้องบอบช้ำมากอย่างแน่นอน หรือถูก "บด" จากการขับโดยไม่มีลมยางในระยะทางไกล ลักษณะเช่นนี้แสดงว่า ไม่สามารถใช้งานต่อได้อย่างปลอดภัย สิ่งสุดท้าย ที่บ่งชี้ว่ายางหมดสภาพที่จะใช้งานได้อย่างปลอดภัย คือ "อายุของยาง" ถ้านับตั้งแต่ถูกผลิต ไม่ควรเกิน 6 ปี ซึ่งระยะเวลานี้ไม่ถือว่านานมากสำหรับยางที่มีคุณภาพสูงพอ ขับรถสบายใจ สบายกระเป๋า ให้เราดูแลคุณ ฟินโบรคเกอร์ ประกันรถราคาสมาชิก ผ่อนได้ 0% นานสุด 10 เดือน เพิ่มเพื่อนขอใบเสนอราคาได้ที่ https://lin.ee/JKE4niJ หรือโทร.061-301-3547 ในช่วงหน้าฝนแบบนี้ สภาพอากาศไม่ค่อยดีนัก ยิ่งหากน้ำฝนกระเด็นเข้าไปในรถหรือเราเหยียบน้ำขึ้นไปบนรถด้วยนั้น ก็จะทำให้รถเปียกและอับชื้น จนเป็นสาเหตุของการเกิดเชื้อราภายในรถตามซอกมุมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เบาะรถ เพดานรถที่เป็นผ้า พรม พวงมาลัย หรือแม้แต่คอนโซลหลัง
ซึ่งนอกจากจะทำให้รถมีสภาพที่ดูไม่น่ามองแล้วนั้น ยังส่งกลิ่นเหม็นอับกวนใจ รวมถึงเป็นอันตรายต่อสุขภาพด้วย ทั้งก่อให้เกิดภูมิแพ้ ไอจาม มีน้ำมูกไหล ตาแดง มีผื่นคัน และอาจทำให้เกิดอาการหอบหืดได้ วันนี้วิริยะประกันภัยจึงได้รวบรวมวิธีกำจัดเชื้อราตัวร้ายภายในรถ ด้วยเทคนิคที่แสนจะง่ายดายมาฝาก มีอะไรบ้างไปดูกัน 1. นำรถยนต์ไปจอดในบริเวณที่โล่งแจ้ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก จากนั้นเปิดประตูรถทั้งหมดทิ้งไว้ 2. ตรวจสอบดูว่ามีเชื้อราอยู่ตรงจุดไหนบ้าง เพื่อที่จะได้กำจัดได้อย่างตรงจุด 3. เตรียมน้ำส้มสายชู ที่มีส่วนผสมของกรดอะซิติกหรือกรดน้ำส้ม 5% ใส่ลงในกระบอกฉีดน้ำหรือฟ็อกกี้ 4. นำน้ำส้มสายชูที่เตรียมไว้ไปฉีดพ่นภายบนรถในบริเวณที่พบเชื้อรา หรือจะฉีดให้ทั่วห้องโดยสารก็ได้เช่นกัน จากนั้นทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง เพื่อรอให้น้ำสมสายชูเข้าไปทำปฏิกิริยาในการกำจัดเชื้อรา *แนะนำว่า ก่อนทำการฉีดพ่น ควรสวมอุปกรณ์ปิดปากและจมูกก่อน รวมไปถึงใส่แว่นตา เพื่อป้องกันละอองของน้ำส้มสายชูกระเด็นโดนใบหน้าหรือเข้าสู่ร่างกาย **ในกรณีที่ไม่มั่นใจ สามารถฉีดซ้ำลงไปอีกครั้งได้ 5. หลังจากผ่านไป 1 ชั่วโมง ให้ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำ แล้วค่อยๆเช็ดซ้ำลงไปบริเวณที่ฉีดพ่นน้ำส้มสายชูอีกครั้ง จากนั้นดูดฝุ่นทำความสะอาดรถให้หมดจด เพราะเชื้อรานั้นถือเป็นตัวการร้ายบนรถยนต์ ซึ่งนอกจากจะส่งผลเสียต่อรถยนต์ที่คุณรักแล้ว ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพด้วย ดังนั้นหากพบว่ารถเกิดความอับชื้นและมีเชื้อรา ควรรีบกำจัดอย่างเร่งด่วน ก่อนที่เชื้อราจะขึ้นหนาแน่น จนต้องไปใช้บริการร้านซักเบาะหรือพรม ซึ่งถือเป็นการเสียเงินโดยใช่เหตุ **ขอบคุณบทความดีดี จาก บ.วิริยะประกันภัย สนใจประกันรถราคาสมาชิก ของ บ.วิริยะประกันภัย โทร.061-301-3547 หรือเพิ่มเพื่อนขอใบเสนอราคาได้ที่ https://lin.ee/JKE4niJ |